ภารกิจของ Microsoft ในการซื้อกิจการ Activision Blizzard ดูเหมือนจะมีความคืบหน้าเนื่องจากสหภาพยุโรปมีแนวโน้มที่จะอนุมัติการซื้อมูลค่า 68.7 พันล้านดอลลาร์
คณะกรรมาธิการยุโรปจะตัดสินใจเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการของ Microsoft ในปลายปีนี้ ในขณะเดียวกัน ยังคงมีอุปสรรค์สำคัญบางประการก่อนที่จะเกิดการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เกม
เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว Microsoft ประกาศแผนการซื้อ Activision Blizzard ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมเกม การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะทำให้ Microsoft สามารถควบคุม Call of Duty ซึ่งเป็นแฟรนไชส์ยักษ์ใหญ่ที่เป็นหนึ่งในเกมที่มียอดขายสูงสุดอย่างต่อเนื่องในแต่ละปี
นอกจากนี้ยังจะทำให้แฟรนไชส์ เกมออนไลน์ Warcraft, StarCraft, Diablo และ Overwatch อยู่ในมือของ Microsoft พร้อมกับชื่อหลักอื่น ๆ เช่น Spyro, Crash Bandicoot และ Candy Crush หน่วยงานกำกับดูแลมีความกังวลอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการซื้อครั้งนี้ เนื่องจากอาจถูกมองว่าเป็นการผูกขาด
หนึ่งในข้อกังวลหลักของคณะกรรมาธิการการค้าแห่งสหพันธรัฐสหรัฐและคณะกรรมาธิการยุโรปคือการเคลื่อนไหวนี้อาจก่อวินาศกรรมคู่แข่งของคอนโซล Xbox ของ Microsoft ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยการทำให้เกมเหล่านี้เป็นเอกสิทธิ์
ข้อตกลงของ Microsoft กับ Nintendo และ Nvidia มีความน่าเชื่อถือเพียงพอและมีแนวโน้มที่จะจัดการกับปัญหาการต่อต้านการผูกขาดของสหภาพยุโรป Microsoft เพิ่งทำข้อตกลง 10 ปีกับ Nintendo และ Nvidia เพื่อให้มั่นใจว่า Call of Duty จะพร้อมใช้งานบนคอนโซล Nintendo และเกม Call of Duty และ Xbox PC จะถูกนำไปยังแพลตฟอร์มเกมบน Cloud Nvidia GeForce Now
ความเคลื่อนไหวนี้เป็นการจัดการกับข้อกังวลด้านการต่อต้านการผูกขาดของหน่วยงานกำกับดูแลโดยตรง และดูเหมือนว่าจะดำเนินไปได้ไกลในการบรรลุข้อตกลง
มีการเสนอข้อตกลง Call of Duty 10 ปีให้กับ Sony แม้ว่า Sony จะปฏิเสธข้อเสนอก็ตาม ดูเหมือนว่านี่จะเป็นการเคลื่อนไหวที่คำนวณได้ในส่วนของ Sony เนื่องจากการยอมรับข้อตกลงน่าจะช่วยคดีของ Microsoft กับหน่วยงานกำกับดูแลได้ Sony อยู่ในจุดที่ยากลำบากเมื่อพูดถึง เกมออนไลน์ Call of Duty
เนื่องจากข้อตกลง Call of Duty ของ PlayStation กับ Activision นั้นถูกกำหนดให้หมดอายุในปี 2024 หาก Microsoft ได้รับ Call of Duty โดยไม่ได้รับความร่วมมือจาก Sony ก็ไม่แน่ว่า Microsoft จะตัดสินใจมอบ PlayStation เข้าถึงซีรีส์